UFABETWIN กล้า ท้า อันตราย : ศึก “วิ่งเพื่อรอด” ในป่าแอมะซอน

UFABETWIN กล้า ท้า อันตราย : ศึก “วิ่งเพื่อรอด” ในป่าแอมะซอน

เป้าหมายในการออกกำลังกายของแต่ละคนคืออะไร ? บ้างก็เพื่อพัฒนาร่างกายไปอีกขั้น บ้างก็ออกเพื่อการรักษาสุขภาพให้มั่นคง แต่สำหรับบางคน คือเพื่อความท้าทายล้วน ๆ ผ่านการเล่นกีฬาแบบสุดโต่งและอันตราย ชนิดที่ไม่น่ามีกีฬาแบบนี้อยู่จริง

การวิ่งมาราธอนในป่าดิบชื้นคือหนึ่งในนั้น แม้ว่าจะไม่ใช่กีฬาเอ็กซ์ตรีมอันผาดโผนแบบการกระโดดร่มหรือการเล่นเซิร์ฟ แต่การวิ่งเทรลระยะทาง 230 กิโลเมตร ที่ผนวกกับเส้นทางอันหฤโหดในป่าดิบชื้นแอมะซอน ก็สามารถท้าทายผู้เข้าร่วมได้ไม่แพ้กีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดอื่น ๆ เป็นความสุดโต่งที่ปราศจากความผาดโผน แต่กลับเต็มไปด้วยอุปสรรคจากสภาพอากาศ เส้นทาง ที่ต้องวัดกันด้วยสภาพของร่างกายและจิตใจล้วน ๆ

เส้นทางการวิ่งสุดโหดนี้เป็นอย่างไร ? ประกอบไปด้วยอุปสรรคอะไรบ้าง

กีฬาสุดโหดของคนเหล็ก

กีฬา “อัลตร้ามาราธอน” หรือชื่ออื่น ๆ อย่าง “อัลตร้ารันนิ่ง” และ “อัลตร้าดิสแทนซ์” คือการวิ่งมาราธอนประเภทหนึ่งที่สมชื่อ “อัลตร้า” หรือที่แปลว่า “สุดขีด” เป็นการวิ่งมาราธอนที่ต้องอาศัยการเตรียมตัว ความอดทน และความแข็งแรงของจิตใจมากกว่ามาราธอนแบบปกติ เพราะระยะทางที่ยาวกว่าและเส้นทางที่ท้าทายกว่ามาราธอนแบบทั่วไป และมันอาจทำให้ร่างกายและจิตใจของผู้เข้าร่วมอ่อนแอลงก่อนจะถึงเส้นชัยได้

ประวัติความเป็นมาของอัลตร้ารันนิ่งได้รับการบันทึกอย่างเป็นลายลักษ์อักษรและเริ่มเป็นที่จับตามองจริง ๆ เมื่อช่วงศตวรรษที่ 19 ในฐานะกิจกรรมของ “คนบ้าระห่ำ” และยังไม่ได้ถูกจดจำในฐานะกีฬาประเภทหนึ่งด้วยซ้ำ เมื่อชายที่มีชื่อว่า “เอ็ดเวิร์ด เพย์สัน เวสตัน” ผู้ประกอบอาชีพ “นักเดิน” ชาวอเมริกัน เดินข้ามรัฐในปี 1861 จากเมืองบอสตัน ไปสู่ วอชิงตัน ดีซี เป็นระยะทาง 769 กิโลเมตร เพื่อจะไปเข้าร่วมพิธีสาบานตนการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น พร้อมกับลงพนันเอาไว้ และแม้ว่าเขาจะแพ้พนันให้กับลินคอล์นก็ตาม เพราะไปไม่ทันพิธีดังกล่าว แต่การกระทำครั้งนี้ของเขาก็ส่งผลให้การเดินระยะไกลเป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากสาธารณะชนเป็นครั้งแรก

นำไปสู่การวิ่งทางไกลในรูปแบบของการแข่งขัน ที่เริ่มมีให้เห็นจริง ๆ เมื่อทศวรรษ 1920s จากการจัดกิจกรรมอัลตร้ามาราธอนแบบจริงจังในประเทศแอฟริกาใต้ ในการแข่งขันที่ชื่อ “คอมเรดส์ มาราธอน” ในจังหวัด จนกลายเป็นการแข่งขันอัลตร้ามาราธอนที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก และได้รับความนิยมจากสื่อและผู้คนจำนวนมากในฐานะกีฬาเพื่อความบันเทิงมาตั้งแต่นั้น

 

โดยทั่วไป การวิ่งมาราธอน แบบปกติจะมีระยะทางอยู่ 42.195 กิโลเมตร และการวิ่ง ฮาล์ฟมาราธอน หรือวิ่งแบบครึ่งหนึ่งของมาราธอนปกติจะอยู่ที่ 21.0975 กิโลเมตร แต่กับ อัลตร้ามาราธอน จะมีระยะทางการวิ่งมากถึง 50 กิโลเมตร หรือเพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีกประมาณ 8 กิโลเมตร และในบางครั้งก็สามารถลากยาวไปได้ถึง 100 กิโลเมตร และมากกว่า 100 กิโลเมตร

แน่นอนว่าการวิ่งในระยะทางไกลขนาดนี้ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ภายใน 1 วัน การวิ่งอัลตร้ามาราธอนจึงจำเป็นต้องอาศัยการหยุดพักและมักเป็นการแข่งที่เรียกว่า “สเตจ เรซ” กล่าวคือ ภายใน 1 วัน ผู้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งจะต้องวิ่งตามเส้นทางหรือระยะทางที่กำหนดเอาไว้ หลังจากที่หยุดพักในจุดหนึ่งหรือในบางครั้งการแข่งขันอัลตร้ามาราธอนก็มีการกำหนดเกณฑ์การแข่งขันเป็นระยะเวลาแทน บางครั้งก็เป็นการวิ่ง 6 ชั่วโมง, 12 ชั่วโมง หรือมากถึง 24 ชั่วโมง เป็นการวิ่งในระยะสั้นที่มีจุดพักให้ดื่มน้ำอยู่บ่อย ๆ หลังจากวิ่ง 1 รอบ

 

อย่างไรก็ตามหนึ่งในการแข่งขันอัลตร้ามาราธอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือการเข้าร่วมในประเภทเส้นทางสุดโหดตามธรรมชาติ อย่างการเผชิญความหนาวสุดขั้วในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งบริเวณทวีปอาร์กติก หรือท่ามกลางแดดอันร้อนระอุในทะเลทราย

รวมถึงในป่าดิบชื้นแอมะซอนที่เต็มไปด้วยฝน แมลง และความชื้น ในการแข่ง กลางดงพงไพรี

 

UFABETWIN

 

ท่ามกลางเส้นทางการวิ่งอัลตร้ามาราธอนอันหลากหลาย ไล่มาตั้งแต่พื้นที่น้ำแข็ง อย่างการแข่ง “ยูคอน อาร์กติก อัลตร้า” พื้นที่ป่าหิมะในแคนาดาหรือในทะเลทรายในการแข่ง “อัลมามูน อัลตร้า มาราธอน” ( ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ “จังเกิ้ล อัลตร้ามาราธอน” ในพื้นที่บริเวณป่าดิบชื้นแอมะซอนก็ถูกจัดให้อยู่เส้นทางการแข่งที่หฤโหดไม่แพ้กันกับพื้นที่อื่น ๆ อีกทั้งมันยังเคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในการแข่งอัลตร้ามาราธอนที่ “หิน” ที่สุดในโลก

การแข่งอัลตร้ามาราธอนในป่าดิบชื้นที่โด่งดังนั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 ที่ ได้แก่ พื้นที่ของป่าส่วนหนึ่งในประเทศบราซิล และอีกส่วนหนึ่งในประเทศเปรู

การแข่งขันอัลตร้ามาราธอนในประเทศบราซิล ที่เคยจัดขึ้นในปี 2020 เริ่มต้นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทาปาโฮส ในรัฐปารา ที่มีพื้นที่ราว 1.3 ล้านเอเคอร์ ผู้ที่ลงสมัครการแข่งขันอัลตร้ามาราธอนในรายการนี้จะต้องเคลื่อนที่ไปตามเส้นทาง 127 กิโลเมตรแบบ 4 สเตจ และ 254 กิโลเมตรแบบ 6 สเตจ

เส้นทางในป่าประกอบไปด้วยพื้นที่บริเวณหนองน้ำ แม่น้ำที่ไหลเชี่ยว และทางลาดชัน ท่ามกลางอุณหภูมิราว 37 องศาเซลเซียส รวมไปถึงความชื้นในอากาศปริมาณมากที่อาจก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลียจากความร้อน อาการขาดน้ำ รวมไปถึงพืชและสัตว์มีพิษ ที่อาจพบเจอได้ระหว่างทาง การลุยอัลตร้ามาราธอนในเส้นทางนี้จึงเป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยแรงใจมากพอ ๆ กับแรงกาย

เช่นเดียวกันกับอีกเส้นทางหนึ่งที่กำลังจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นในเดือนมิถุนายนของปีนี้ ในอุทยานแห่งชาติมานู พื้นที่ส่วนหนึ่งของป่าดิบชื้นแอมะซอนที่อยู่ในภาคพื้นทวีปของประเทศเปรู ได้รับการจดจำว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ในปี 1987 ผู้เข้าแข่งขันต้องลุยการวิ่ง 5 สเตจ รวมเป็นระยะทาง 230 กิโลเมตร อันประกอบไปด้วยหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยเมฆ ส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอนดีส ไปจนถึงแม่น้ำมาเดรา เด ดิโอส ลุ่มแม่น้ำที่ประเทศโบลิเวียและเปรูใช้ร่วมกัน พร้อมความชื้นในอากาศที่สูง ท่ามกลางสภาพอากาศร้อน ๆ เย็น ๆ ด้วยอุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส

จากบันทึกการวิ่งจังเกิ้ลอัลตร้ามาราธอนในปี 2019 ที่ผ่านมาของเส้นทางนี้ พบว่าอุปสรรคของนักวิ่งที่อันตรายที่สุดคือสภาพอากาศ เพราะความที่เป็นป่าดิบชื้นจึงทำให้มีฝนตกชุกตลอดเวลาและในขณะเดียวกันที่สภาพแวดล้อมในป่ามีความชื้นในอากาศสูง จึงทำให้นักวิ่งส่วนมากต้องเตรียมพร้อมกับเรื่องระบบทางเดินหายใจเป็นสำคัญ และถึงแม้ว่าจะมีแดดส่องลงบ้างในบางเวลา แต่มันก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

เมื่อแดดหมดลง นักวิ่งแต่ละคนต้องเจอกับอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากจะต้องแข่งกับนักวิ่งด้วยกันแล้ว แต่ละคนยังต้องแข่งกับเวลาเพื่อไปให้ถึงจุด เพื่อตั้งแคมป์ให้เร็วที่สุดด้วย โดยในปีดังกล่าวนักวิ่งที่ทำความเร็วได้ดีที่สุดในการจบสเตจแรกใน Top 10 มีชื่อว่า “มาร์ติน แลมเบิร์ตเซ่น” นักวิ่งชาวเดนมาร์ก ที่ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง 58 นาทีเท่านั้น ส่วนคนที่เข้าเส้นชัยในลำดับที่ 10 มีชื่อว่า “จอห์น แม็คเลียรี่” จากประเทศอังกฤษ ที่ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง 14 นาที (ผู้ที่ชนะการแข่งขันในปีนั้นได้แก่ มาร์ติน แลมเบิร์ตเซ่น)

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่า การวิ่งอัลตร้ามาราธอนในป่าดิบชื้น เป็นเรื่องอันตรายที่ไม่ควรเอาตัวเข้าไปเสี่ยงแม้แต่น้อย แต่สำหรับนักวิ่งบางคนที่เตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี ก็สามารถหาสมดุลให้กับความโหดและความสนุกได้อย่างน่าประหลาด

“กายพร้อม” ไม่เท่า “ใจพร้อม”

แม้ว่าจะฟังดูน่ากลัวขนาดไหน แต่จริง ๆ แล้ว การเข้าไปวิ่งอัลตร้ามาราธอนในป่าก็อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิด และสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็อาจเป็นเพราะ “การเตรียมตัวที่เหมาะสม” ของเหล่านักวิ่งเอง ที่ต้องใช้ความพร้อมในการเตรียมอุปกรณ์อย่าง อาหาร เปล มุ้งกันยุง มีด เข็มทิศ ไฟฉาย แท่งเกลือ (เพื่อคุมปริมาณอิเล็กโทรไลต์ หรือเกลือแร่ในร่างกายให้มีความสมดุลอยู่ตลอด) รวมถึงนกหวีดหรือชุดปฐมพยาบาลขนาดเล็ก ไม่ต่างอะไรจากการเดินป่า ประกอบกับความพร้อมของผู้จัดที่ต้องจัดสรรพื้นที่และน้ำตามจุดเช็คพอยต์ให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา จังเกิ้ลอัลตร้ามาราธอน ส่วนมากจึงจะผ่านไปอย่างราบรื่น

นอกจากนี้ การ “วิ่ง” ที่ว่า จริง ๆ แล้วมันก็คือการเดินสลับวิ่งที่ต้องอาศัยความเร็วและความคล่องตัวในบริเวณนั้น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งตลอดเวลา ดูตัวอย่างเรื่องความพร้อมได้จาก “อาร์มิน มาลูฟ” นักวิ่งจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของเอสิคส์ ที่ลงแข่งจังเกิ้ลอัลตร้ามาราธอนในประเทศเปรูเมื่อปี 2021

 

UFABETWIN

 

“ผมเป็นคนที่มักจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับธรรมชาติและมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ” เขาเผยกับนิตยสาร ในปีที่ผ่านมา

“จังเกิ้ลอัลตร้านั้นถูกยกให้เป็นการแข่งขันที่โหดที่สุด ทั้งทางกายและทางใจ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามในโลก เป็นเวลา 5 วัน ในป่าแอมะซอน รวมระยะทาง 230 กิโลเมตร มันชื้นและมีอุณหภูมิตั้งแต่ 10-30 องศา ”

“เส้นทางเป็นป่าทึบ ทีมงานจะเข้าไปก่อนผู้แข่งขัน และจะคอยปิดท้ายผู้แข่งขันคนสุดท้ายเสมอ มันเต็มไปด้วยโคลนและแม่น้ำประมาณ 70 แห่ง นี่ยังไม่รวมสัตว์ป่าที่ผมเจอ มีตั้งแต่แมงมุม มดไฟ งูอนาคอนดา เสือจากัวร์ และอีกเพียบ”

มาลูฟเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่เขาได้รับจากการวิ่งในปีที่ผ่านมา ซึ่งจากการเปิดเผยภาพในบทสัมภาษณ์ของเขา ปรากฏให้เห็นอาหารจำนวนมากที่เขาต้องเตรียมเพื่อไปเข้าร่วมการแข่งครั้งนี้ ประกอบไปด้วยเวย์โปรตีน โปรตีนบาร์จำนวนมาก ถั่ว เพื่อให้มีพลังงานเหลือพอสำหรับการวิ่งให้ได้ตลอดรอดฝั่ง

“คุณต้องพกทุกอย่างในกระเป๋าน้ำหนัก 11-12 กิโล ทั้ง อาหาร เครื่องนอน เสื้อผ้า ชุดปฐมพยาบาล ทั้งหมดอยู่ในนั้น สิ่งเดียวที่คุณจะได้รับจากจุดเช็คพอยต์คือน้ำ ”

“นอกเหนือจากเรื่องทางกายภาพในระยะทาง 230 กิโลเมตร สิ่งที่คุณต้องเตรียมพร้อมคือเรื่องของความเครียดทางใจที่ต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและพุ่งเป้าไปที่เป้าหมาย เพื่อที่จะจบการแข่งขันนี้ให้ได้ คุณจะต้องหาสมดุลระหว่างความอ่อนล้าทางกายและความสงบภายในใจ เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการแข่งขันครั้งนี้ด้วย”

ในปีนั้น มาลูฟ เป็นหนึ่งใน 19 จาก 53 คนที่สามารถเข้าเส้นชัยได้ในเวลาที่กำหนด โดยเขาใช้เวลาไปทั้งหมดรวม 57 ชั่วโมง 16 นาทีที่อยู่ในป่า เขาออกจากป่ามาพร้อมกับความภาคภูมิใจ ที่สามารถเอาชนะเส้นทางการวิ่งนี้ได้ด้วยเข่าที่เจ็บ 1 ข้าง เนื่องจากการวิ่งติดต่อกันเป็นเวลา 17 ชั่วโมง

 

บางทีเรื่องราวที่เราได้เรียนรู้จาก มาลูฟ อาจจะไม่ใช่เรื่องของการเตรียมพร้อมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นเรื่องของการฝึกสมาธิ เป็นการสร้างอะดรีนาลีนที่ได้จากความท้าทายโดยไม่ต้องผ่านอะไรโลดโผน แต่อาศัยแค่ใจและกายที่แข็งกล้า ผ่านแบบฝึกหัดที่ชื่อว่า จังเกิ้ลอัลตร้ามาราธอน

ตามที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้า จังเกิ้ล อัลตร้ามาราธอน แอมะซอนในอุทยานแห่งชาติมานู ประเทศเปรู กำลังจะกลับมาอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ปี 2022 พร้อมค่าสมัครที่แพงหูฉี่ เป็นเงินจำนวน 2,750 ปอนด์ หรือราว 122,000 บาท แต่มันก็อาจเป็นอีเวนต์สำคัญที่เหล่านักวิ่งอัลตร้าหลาย ๆ คนกำลังตั้งตารออยู่ก็เป็นได้

ในราคานี้ที่ไม่รวมค่าเครื่องบิน นักวิ่งจะได้รับการดูแลจาก ผู้จัดงานอย่างใกล้ชิด พร้อมกับทีมแพทย์และไกด์ผู้เชี่ยวชาญ ได้รับของที่ระลึกอย่างเสื้อ เหรียญ และรูปถ่ายจากช่างภาพของผู้จัด รวมไปถึงที่พักและอาหารในโรงแรมเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองหลังจากจบการแข่งขัน ผู้สมัครสามารถเลือกได้ว่าจะลงแข่งแบบทีม แบบคู่ หรือแบบเดี่ยว และผู้สมัครแต่ละคนต้องมีประวัติการวิ่งมาราธอนครั้งล่าสุดไม่เกิน 12 เดือน จึงจะสามารถลงแข่งขันได้

แม้ว่าจะฟังดูมีเงื่อนไขและมีราคาที่ต้องจ่ายเพื่อการเข้าร่วม แต่การพาตัวเองเข้าไปอยู่ในป่าดิบชื้นและต้องเดินทางตลอดเวลาให้ครบ 230 กิโลเมตร ก็ฟังดูเป็นประสบการณ์เหนือจริงที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้ยากในชีวิตประจำวัน จึงไม่แปลกหากคนที่มีกำลังทรัพย์เพียงพอจะเข้าไปร่วมแข่งขัน นอกจากนี้นักวิ่งเหล่านี้ก็คงเป็นคนที่มีแต่เงินไม่ได้ แต่ต้องมีวินัยและร่างกายที่แข็งแรงด้วย

ที่สำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องจิตใจ เพราะสุดท้ายแล้วการประคองร่างกายตัวเองเป็นเวลาหลายวันในป่าก็คงไม่สำคัญเท่าจิตใจที่อาจเริ่มอ่อนล้าและอาจจะค่อย ๆ ถูกกลืนกินเข้าไปในป่าจนท้อในที่สุดก็เป็นได้

UFABETWIN

UFABETWIN

UFABETWIN แมนฯ ยูไนเต็ด v สเปอร์ส, วิลล่า, เบรนแดน, ดาร์วิน นูเนซ, อาร์เซนอล

UFABETWIN แมนฯ ยูไนเต็ด v สเปอร์ส, วิลล่า, เบรนแดน, ดาร์วิน นูเนซ, อาร์เซนอล

UFABETWIN ใครก็ตามที่บอกว่าพวกเขารู้ว่าจะคาดหวังอะไรจากแมนฯ ยูไนเต็ดกับสเปอร์สกำลังโกหกคุณ นอกจากนี้: มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเบรนแดน, วิลล่า, นูเนซ และอาร์เซนอลในยูโรป้าลีก…เกมที่น่าจับตามอง – แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด v ท็อตแนม เช่นเดียวกับผู้จัดการทีมส่วนใหญ่ที่รับช่วงต่อทีมที่ล้มเหลว

งานแรกของ คือการเสริมสร้างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หากยังไม่ชัดเจนมากนัก ความพ่ายแพ้ที่ไบรท์ตันและเบรนท์ฟอร์ดก็เน้นความสำคัญไปที่โฟกัสที่เฉียบคม ด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าวที่บรรลุผลสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ จึงต้องทำงานเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในการโจมตี ยูไนเต็ดล้มเหลวที่จะทำลายนิวคาสเซิล

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในตอนที่น่าผิดหวังล่าสุด สำหรับผู้สนับสนุนบ้านที่ จากการต่อต้านที่ดื้อรั้น ไม่ได้หมายความว่าปีศาจแดงไม่ได้สร้างโอกาส – พวกเขาพลาดโอกาสทองในช่วงท้าย – แต่พวกเขาไม่ได้สร้างเพียงพอ และแน่นอนในสัปดาห์ที่แล้ว ที่แกะสลักไว้ ยังไม่เสร็จ คนของ ทำประตูได้ 12 ประตูในพรีเมียร์ลีก

จากที่ 12 พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 11 สำหรับเป้าหมายที่ทำคะแนนได้ต่อ 90 แม้ว่าแนวหน้าของพวกเขาจะมี และ ผู้จัดการทีมอาจต้องการรวม เข้าไปด้วย แต่อาการบาดเจ็บสามข้อที่แยกจากกันอยู่แล้วในระยะนี้เป็นการตอกย้ำมุมมองที่ว่าชาวฝรั่งเศสที่อ่อนแอไม่สามารถพึ่งพาได้

เอกลักษณ์ของกองหน้าไม่ได้เปลี่ยนมุมมองทั่วไปว่าขอบของ นั้นง่ายเกินไปที่จะทื่อ การหายตัวไปของ ในวันอาทิตย์นั้นชัดเจน และทำได้เพียงหวังว่ากองกลางชาวเดนมาร์กจะหายจากอาการป่วยทันเวลาเพื่อเผชิญหน้ากับทีมเก่าของเขาที่ในคืนวันพุธ ท็อตแนมตัวเองยังคง และอันโตนิโอ คอนเต้

ก็มีปัญหาที่คล้ายกันกับความสมดุลและการเสริมแนวรุกของเขา ทำงานหนักมาเกือบทั้งฤดูกาล และ ซึ่งตอนนี้ยังบาดเจ็บอยู่ ก็ยังพยายามหาความคล่องแคล่วของเขาหลังจากย้ายช่วงซัมเมอร์ แฮร์รี เคนสนับสนุนสเปอร์ส แต่คอนเต้ยังคงพยายามขาดเดยัน คูลูเซฟสกี้ ไม่มีวิธีแก้ปัญหาในทันทีที่ชัดเจน

สำหรับเจ้านายคนใดคนหนึ่งก่อนการประชุมกลางสัปดาห์ที่ แต่ด้วยแนวรับทั้งสองโดยทั่วไปแล้ว จุดสนใจของยูไนเต็ดและท็อตแน่มคือการยิงแนวรุก โดยเฉพาะเจ้าบ้านที่อาจตามหลังสเปอร์ส 10 แต้ม

หากพวกเขาพ่ายแพ้ ทีมที่น่าจับตามอง – แอสตัน วิลล่า วิลลาจำเป็นต้องเสนอบางอย่าง อะไรก็ได้ กับเชลซีเพื่อบรรเทาแรงกดดันต่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด

UFABETWIN

พวกเขาทำเพียงพอหรือไม่ วิลลานส์ไม่ได้ทำให้ผู้จัดการของพวกเขาแย่ลงไปอีก

แม้ว่าความพ่ายแพ้ 2-0 – เกิดจากข้อผิดพลาดส่วนบุคคล – นำมาซึ่งความโล่งใจเพียงเล็กน้อย การมาเยือนของเชลซีไม่ใช่สิ่งที่ต้องชนะสำหรับเจอร์ราร์ด แต่การไปเยือนฟูแล่มของพวกเขาจะถูกนำมาเป็นตัววัดระดับปัญหาที่วิลล่า ผลลัพธ์ที่ โดยไม่คำนึงถึงผลงานของพวกเขา จะมีความโดดเด่นมากขึ้น

เมื่อลำดับชั้นของ ตัดสินแนวโน้มการจ้างงานในทันทีของผู้จัดการ แฟนบอลวิลล่าหลายคนได้ตัดสินคำตัดสินแล้ว และถึงแม้จะมีกำลังใจในด้านการแสดงของพวกเขา ผู้คนมากมายก็ไม่สนใจที่จะยืนกรานเพื่อต้อนรับเสียงนกหวีดสุดท้ายด้วยการยอมรับหรือไม่เห็นด้วย เจอร์ราร์ดทำอะไรได้บ้าง?

เขาแทบจะไม่สามารถตำหนิได้สำหรับส่วนหัวที่อธิบายไม่ได้ของ ซึ่งทำให้ เป็นผู้เปิดของเขาหรือ ที่เดินอยู่หลังกำแพงของเขาเพื่อ เป็นที่สอง ข้อบกพร่องในการโจมตีของวิลล่าก็เป็นปัญหาสำหรับผู้ที่สูญเสียโอกาส แต่ตามโครงสร้างแล้วเจอร์ราร์ดยังไม่พบความสมดุลที่ทำให้ฝ่ายของเขา

เป็นภัยคุกคามที่สม่ำเสมอและโดดเด่น วิลลามี สูงสุดร่วมของฤดูกาลกับเชลซีด้วยอิทธิพลที่สร้างสรรค์ที่สุดของพวกเขาคือ ทั้งคู่นั่งสำรองเกือบ 90 นาที ในสี่เกมก่อนหน้าของพวกเขา ไร้พ่ายด้วยสามเสมอและชนะ พวกเขาบันทึก ที่สูงกว่า 1.00 เพียงครั้งเดียวเท่านั้น มันเป็นความสมดุลที่วิลล่า

ไม่สามารถหาได้ตลอดทั้งฤดูกาล – และในระยะที่แล้ว เจอร์ราร์ดต่อสู้กับปัญหาเดียวกันนี้มาเกือบ 11 เดือนแล้ว เขาต้องหาคำตอบในสัปดาห์นี้ ผู้จัดการทีมที่น่าจับตามอง – เบรนแดน ร็อด เจอร์ส เจอร์ราร์ดไม่ใช่ผู้จัดการทีมเพียงคนเดียวที่จะสกัดกั้นแฟนบอลของเขาที่บ้านในสุดสัปดาห์นี้ เลสเตอร์

โดนโห่ไล่หลังจากเสมอ 0-0 กับพาเลซ ซึ่งจิ้งจอกสยามรู้สึกว่าจำเป็นต้องยกเลิกการประกาศวันเกิดเพราะพวกเขากำลังถูกพวกที่ยุยงให้ทิ้งร็อดเจอร์ส เราคิดว่านโยบายเดียวกันนี้จะถูกนำมาใช้เมื่อลีดส์ยูไนเต็ดลุกขึ้นสู่คิงเพาเวอร์ในเย็นวันพฤหัสบดี ลีดส์มีปัญหาของตัวเอง และการพิจารณาของเจสซี่ มาร์ช

แต่ชาวอเมริกันยังคงมีความอดทนและการสนับสนุนเพียงพอในธนาคาร หมดเครดิตเกือบทั้งหมดแล้ว เจ้าของทีมเลสเตอร์ยังคงเชื่อมั่นในตัวเองในตอนนี้ แม้ว่ามันอาจจะมากกว่านั้นเพราะค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดร็อดเจอร์ส มากกว่าความเชื่อที่พวกเขาเก็บเอาไว้ในตัวผู้จัดการทีม

เพื่อดึงสุนัขจิ้งจอกขึ้นสู่ลีก คุณท็อปดูไม่มีความสุขเลยจริงๆ เมื่อเขามองดูเลสเตอร์ยอมรับแฟนบอลที่ติดอยู่กับเสียงนกหวีดสุดท้ายในมื้อเที่ยงของวันเสาร์ แค่ลงจากเขา แกเร็ธ เซาธ์เกตดูงุนงงอย่างเต็มที่หลังจากที่เขาไปที่เลสเตอร์เพื่อจะได้ดูเจมส์ แมดดิสันเป็นอย่างน้อย แมดดิสันจะหายไปในเกมกับลีดส์

ซึ่งทำให้ทีมจ่าฝูงอย่าง อาร์เซนอล ในวันอาทิตย์ หลังจากเก็บใบเหลืองใบเหลืองครั้งที่ 5 ในรอบที่กำลังจะตายในวันเสาร์ เพื่อการดำน้ำที่เน้นย้ำถึงความสิ้นหวังของเลสเตอร์ เมื่อพวกเขาลอยไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังอีกครั้ง การดริฟท์ของร็อดเจอร์สต้องย้อนเวลาสำหรับสองโปรแกรมการแข่งขัน –

พวกเขาไปที่ ในวันอาทิตย์ – กับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่อันดับหก ผู้เล่นที่น่าจับตามอง – ดาร์วิน นูเนซ ตามที่ทิกเกอร์สพูดถึงในบทสรุป 16 นัดของเขา หลังจากที่ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้เรากำลังกลายเป็นแฟนตัวยงของความวุ่นวายที่ดูเหมือนจะตามมาจากการเซ็นสัญญาครั้งใหญ่ของหงส์แดง

ในช่วงซัมเมอร์ เรายังไม่แน่ใจว่านั่นเป็นคำชมหรือเปล่า นูเนซลุกจากม้านั่งสำรองในช่วง 20 นาทีสุดท้าย ในช่วงเวลานั้นเขาฟูมฟายผู้ดูแลเพื่อให้เกมปลอดภัย โดยได้ทำให้สถานการณ์แบบสามต่อหนึ่งยุ่งเหยิงยิ่งกว่าเดิมเมื่อโม ซาลาห์ทำประตูได้เสีย นูเนซเห็นซาลาห์ไหม?

UFABETWIN

เขาต้องมี เขาอยู่ในสายตาของเขาและวางเลนที่ผ่านไปสนุกสนาน

หรือโกรธเคืองขึ้นอยู่กับความจงรักภักดีของคุณเพียงแค่เลือกที่จะไปสู่ทางตัน ด้วยความเมตตาต่อลิเวอร์พูลชนะและวาระหลังการแข่งขันมีประเด็นพูดคุยมากมายเหนือการตัดสินใจที่น่าสงสัยของเขา แต่มันเป็นผลงานจี้ที่คู่ควรกับการพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ตัวเลือกเกมรุกของเจอร์เก้น คล็อปป์

ยังคงถูกจำกัดเพิ่มเติมด้วยอาการบาดเจ็บของดิโอโก้ โชต้า ความโชคร้ายของกองหน้าชาวโปรตุเกสทำให้มาที่ ในวันพุธ หากลิเวอร์พูลต้องการให้ซิตี้ชนะจุดเปลี่ยน พวกเขาอาจต้องการกองหน้า 85 ล้านปอนด์ เพื่อหาความสงบที่จะทำให้การเริ่มต้นชีวิตในพรีเมียร์ลีก’คลั่งไคล้และดิบๆ’ อยู่ข้างหลังเขา

มิเกล อาร์เตต้า ตอบรับชัยชนะครั้งใหญ่ในเกมกับลีดส์ เกมยุโรปที่น่าจับตามอง – อาร์เซนอล v พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่ น กลางสัปดาห์นี้น่าจะยิ่งใหญ่กว่านี้ โดยที่ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พลิกผันเนื่องจากการไปเยือนทีมอาร์เซนอล ลอยตัวโดยรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ในขณะที่ยังฉลองวัน อีกด้วย

ชัยชนะของลิเวอร์พูลในวันอาทิตย์นี้ แต่แทนที่จะเป็นอย่างนั้น สำหรับการปะทะกันใน ที่เลื่อนกำหนดจากช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์ระดับชาติหลังจากการสิ้นพระชนม์ของราชินี มิเกล อาร์เตต้าต้องแสดงสมดุลที่ละเอียดอ่อน เดิมพันกับ เป็นจุดสูงสุดในกลุ่ม A และความเป็นไปได้ที่เจ้าภาพจะวางช่องว่าง

ห้าแต้มระหว่างพวกเขาที่ โดยเหลืออีกสองเกม หากอาร์เตต้าทำการหมุนได้ไกลเกินไป เขาเสี่ยงที่จะสูญเสียตำแหน่งรองเมื่อมีเพียงผู้ชนะกลุ่มเท่านั้นที่ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ รวมถึงโมเมนตัมอันแข็งแกร่งของพวกเขาด้วย และ ก็ไม่ใช่เหยือก ใน พวกเขามีกองหน้าอยู่ที่ 13 ประตู

และ 11 ผู้ช่วยใน 13 เกมในทุกการแข่งขัน ไม่มีผู้เล่นในยุโรปคนไหนทำประตูได้มากกว่านี้ในฤดูกาลนี้ บางที ควรจะขุดลึกลงไปเพื่อ 23 ปี ในฐานะทีมเก็บได้ 17 ประตูจาก 4 เกมหลังสุด พวกเขาเป็นตัวแทนของการทดสอบที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปจนถึงตอนนี้สำหรับอาร์เซนอลซึ่งชนะเกมทั้งหมดของพวกเขา

หลังจากการแข่งขันจนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อการชนะที่ลีดส์เน้นพวกเขาต้องขุดลึกมากขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะไปเซาแธมป์ตันในวันอาทิตย์นี้ เดอะกันเนอร์สต้องดูแลธุรกิจ ขณะที่อาร์เตต้าดูแลทีมของเขา เกม ที่น่าจับตามอง – แบล็คเบิร์น vs ซันเดอร์แลนด์ มีโปรแกรมการแข่งขันเต็มรูปแบบในสัปดาห์นี้

โดย จะกลับมาที่แบล็คเบิร์นบนกล่องในคืนวันอังคาร หลังจากห้าปีในการดูแล ได้รับอนุญาตให้ลอยออกจาก ในช่วงฤดูร้อนก่อนที่เขาจะกลับมาที่ ออกเดินทาง เขากลับไปที่แลงคาเชียร์พร้อมกับแมวดำอันดับเก้าที่ต้องการย้ายเข้าไปอยู่ในจุดของโรเวอร์ซึ่งอยู่ในอันดับที่ห้า นั่นคือความไร้สาระ

ของการแข่งขันชิงแชมป์ อย่างไรก็ตาม เก้าทีมที่ต่ำกว่าชายของ เป็นชัยชนะเพียงครั้งเดียวจากการก้าวกระโดด เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ แบล็กเบิร์นไม่สอดคล้องกันอย่างสม่ำเสมอ ฟอร์มของพวกเขาในช่วง 10 เกมล่าสุด: ถ้าพวกเขาสามารถจับฉากนั้นได้ พวกเขาสามารถขึ้นไปอยู่บนโต๊ะได้ด้วยการเอาชนะ UFABETWIN

UFABETWIN

UFABETWIN จับตา 5 ดาวดังในศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2022

วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก รายการศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดของวงการวอลเลย์บอล มีกำหนดจัดขึ้น 4 ปีครั้ง ชาติใดที่สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศของรายการนี้มาครองได้ จะได้รับการขนานนามว่าเป็น “แชมป์โลก”

โดยอาจจะกล่าวได้ว่าศักดิ์และศรีของตำแหน่งแชมป์โลกในวงการวอลเลย์บอลนั้น เกือบเทียบเท่ากับตำแหน่งแชมป์โอลิมปิกก็คงไม่เกินไปนัก

โดยศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ปี 2022 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2565 ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ ในครั้งนี้เราก็จะพาไปทำความรู้จัก กับผู้เล่น 5 ดาวเด่น ที่น่าจับตามองในการแข่งขันครั้งนี้กัน

เปาลา เอโกนู – ทีมชาติอิตาลี

ถ้าจะเปิดให้แฟน ๆ วอลเลย์บอลทั่วโลกโหวตนักวอลเลย์บอลหญิงที่เก่งที่สุด ณ ปัจจุบันนี้ เชื่อได้ว่า 1 ใน 3 ของรายชื่อดังกล่าว จะต้องมีชื่อของ “เปาลา เอโกนู” มือตบเจ้าของส่วนสูง 194 เซนติเมตร ของทีมชาติอิตาลีติดอยู่ด้วย มือตบเชื้อชาติไนจีเรียคนนี้เพิ่งนำทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์รายการวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2022 พร้อมตำแหน่ง ผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของรายการมาได้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ซึ่งในปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของเธอก็ว่าได้ นอกจากคว้าแชมป์เนชั่นส์ ลีกกับทีมชาติอิตาลีแล้ว ในระดับสโมสร เอโกนูยังนำสโมสรวอลเลย์บอลอีโมโก วอลเลย์โกเนลยาโน ทีมดังในอิตาลี คว้าแชมป์สโมสรยุโรป และแชมป์สโมสรโลกได้อีกด้วย ด้วยฟอร์มกำลังร้อนแรงขนาดนี้ทำให้เอโกนู และทีมชาติอิตาลี ถูกยกให้เป็น 1 ในทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์โลกไปครองได้ในปีนี้

 

UFABETWIN

 

ทิยาน่า บอสโควิช – ทีมชาติเซอร์เบีย

“ดาวตบซ้ายมหากาฬ” ทิยาน่า บอสโควิช ผู้ยกระดับทีมชาติเซอร์เบียให้กลายเป็นทีมชั้นนำระดับโลก หลังจากเปิดตัวกับทีมชาติชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 17 ปี ในรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2014 เธอมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ด้วยการเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติเซอร์เบียคว้าเหรียญเงิน จากมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2016 ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล

หลังจากนั้นอีกเพียง 2 ปี บอสโควิชก็ประกาศศักดาด้วยการพาเซอร์เบียคว้าแชมป์โลกสมัยแรกอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2018 พร้อมทั้งตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของรายการอีกด้วย ถึงแม้ว่าโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ผ่านมาเซอร์เบียจะทำได้เพียงเหรียญทองแดง แต่ในปัจจุบันด้วยวัย 25 ปี บอสโควิชที่พัฒนาตนเองขึ้นมาเป็นสตาร์ระดับโลกอย่างเต็มตัว ยังคงเป็นกำลังหลักให้ทีมชาติเซอร์เบีย “แชมป์เก่า” ที่มีเป้าหมายป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกให้อยู่ในมือของตนเองไว้อีกครั้ง

เคลซี่ โรบินสัน – ทีมชาติสหรัฐอเมริกา

ในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงระดับโลกทุกรายการ ทีมชาติสหรัฐอเมริกาคือ 1 ในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์อยู่ด้วยทุกรายการ ด้วยทรัพยากรผู้เล่นที่ล้นเหลือ และระบบการเล่นที่ดีเยี่ยม ทำให้ไม่ว่าอเมริกาจะเปลี่ยนถ่ายตัวผู้เล่นไปกี่ยุคกี่สมัยก็ยังคงเป็นตัวเต็งที่จะคว้าตำแหน่งชนะเลิศอยู่เหมือนเดิม

ในศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2022 ที่กำลังจะถึงนี้ก็เช่นเดียวกัน สหรัฐอเมริกา ที่มาในฐานะ “แชมป์โอลิมปิก” ก็เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์โลกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าหากจะให้หยิบยกชื่อดาวเด่นของทีม ต่างคนอาจจะเลือกมาแตกต่างกัน เนื่องจากระบบการเล่นของทีมอเมริกา จะไม่เน้นผู้เล่นคนใดคนหนึ่งมากเกินไป

แต่ถ้าให้เราเลือกมาหนึ่งชื่อ “เคลซี่ โรบินสัน” ดาวตบชื่อเหมือนห้างสรรพสินค้าชื่อดังของไทย จนได้ฉายาจากแฟนวอลเลย์บอลชาวไทยว่า “ห้างเขียว” นั้นคือคำตอบ โรบินสันอาจจะไม่ใช่ผู้เล่นที่โดดเด่นในการทำคะแนนเหมือนเอโกนู หรือบอสโควิช แต่เป็นผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้ เป็นสมดุลของทีม เล่นอย่างชาญฉลาด โดดเด่นในทุกทักษะทั้งรุกและรับ ซึ่งผู้เล่นในสไตล์นี้ จะถูกวางบทบาทเป็นแกนหลักคนสำคัญของทีมชาติอเมริกามาโดยตลอด นับตั้งแต่ตำนานอย่าง โลแกน ทอม มาถึง จอร์แดน ลาร์สัน และถูกส่งไม้ต่อมายังโรบินสันในยุคปัจจุบัน

 

UFABETWIN

 

หลี่ หยิงหยิง – ทีมชาติจีน

“พญามังกร” ทีมชาติจีน 1 ในชาติมหาอำนาจแห่งวงการวอลเลย์บอลหญิง เจ้าของตำแหน่งแชมป์โอลิมปิก 3 สมัย (1984, 2004, 2016) เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัย (1982, 1986) กำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านหลังจากการอำลาตำแหน่งของยอดโค้ชผู้เป็นตำนานอย่าง “หลาง ผิง” มาเป็นโค้ชคนใหม่แต่หน้าเก่าอย่าง “ไช่ บิ่น” นั้น ก็กระทบกับทีมอย่างพอสมควร โดยเฉพาะในรายการวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ทีมจีนต้องขาดซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของทีมอย่าง จู ถิง ที่กำลังพักรักษาตัวจากการผ่าตัด ทำให้ความหวังในการทำคะแนนหลักก็จะมาตกอยู่ที่ “หลี่ หยิงหยิง” หัวเสามือซ้าย เจ้าของความสูง 192 เซนติเมตร ผู้ทำคะแนนสูงสุดของทีมในรายการเนชั่นส์ ลีก

แต่อย่างไรก็ตามการฝากความหวังไว้กับดาวรุ่งวัยเพียงแค่ 22 ปี นั้นค่อนข้างจะเป็นภาระที่หนักหน่วงอยู่พอสมควร การเปลี่ยนแปลงโค้ชมาจนถึงการขาดผู้เล่นตัวหลัก ทำให้เราไม่อาจกล่าวได้ว่าจีนนั้นเป็นตัวเต็งเบอร์ต้นๆ ของการแข่งขันครั้งนี้ เว้นแต่ว่าถ้าหากจีนสามารถหาจุดลงตัวของทีมตนเองได้สำเร็จมังกรจีนตัวนี้ก็พร้อมที่จะเป็นม้ามืด ในการก้าวเข้าไปแย่งแชมป์ได้อยู่เสมอ

กาเบรียลา กิมาเรส – ทีมชาติบราซิล

กาเบรียลา กิมาเรส หรือที่แฟน ๆ วอลเลย์บอลส่วนใหญ่รู้จักในนาม “กาบี้” จากดาวรุ่งในอดีตปัจจุบันกลายเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์ และได้รับความไว้วางใจจากโจเซ่ โรเบอร์โต กิมาเรส กุนซือทีมชาติบราซิลให้เป็นกัปตันทีมอีกด้วย

กาบี้ อาจจะไม่ใช่ผู้เล่นที่มีรูปร่างสูงใหญ่ มีความสูงเพียง 180 เซนติเมตร ซึ่งถ้าเทียบกับผู้เล่นตำแหน่งหัวเสาของทีมชั้นนำแล้วยังถือว่าตัวเล็ก แต่ด้วยความแข็งแรงของร่างกายทำให้เธอมีพลังในการกระโดดได้สูงมาก จนสามารถกลบจุดด้อยของเธอไปได้ ในศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ด้วยขุมกำลังของทีมชาติบราซิลชุดปัจจุบันนั้นคงลุ้นแชมป์ได้ค่อนข้างยาก แต่เชี่อว่ากาบี้และเพื่อนร่วมทีมคงพยายามเต็มที่ในการตามล่าหาแชมป์โลกสมัยแรกของทีมต่อไป

UFABETWIN

UFABETWIN

UFABETWIN แม็ค ไกวร์ทำได้ดีสำหรับทีมชาติอังกฤษเขาไม่ใช่กองหลังที่แย่และไม่ใช่กองหลังที่เก่ง เขาแค่เฉพาะเจาะจงมากเท่านั้น

UFABETWIN แม็ค ไกวร์ทำได้ดี สำหรับทีมชาติอังกฤษ เขาไม่ใช่กองหลังที่แย่ และไม่ใช่กองหลังที่เก่ง

UFABETWIN แม็ค ไกวร์ทำได้ดี สำหรับทีมชาติ อังกฤษ การ โต้เถียงของแม็ค ไกวร์ ยังคงดัง ก้อง ผมได้ดูเกือบทุกนัดที่เขาเล่นในช่วงสามปี ที่ผ่านมา เขาไม่ใช่กองหลัง ที่แย่และไม่ใช่กองหลังที่เก่ง เขาแค่เฉพาะเจาะจง มากเท่านั้น ข้อบกพร่อง ของเขาชัดเจน เขาช้าและเจ็บปวดมาก สำหรับผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก เขายังเฉยเมย เกินไป เมื่อถูกกดและถูกลากออก จากตำแหน่งง่ายเกินไป

คุณสมบัติของเขา ยังชัดเจน เขาเป็นการจ่ายบอลที่ดี เล่นได้ดีกับ โหม่งเกมรับ และเกมรับ และสามารถจัด แนวรับได้เพียงพอ เขาเชี่ยวชาญ ในการเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค ในการนำบอลเข้าสู่มิดฟิลด์ เมื่อตัวเลือก การจ่ายบอล ของเขาถูกทำเครื่องหมายไว้ และทำได้ดีทีเดียว ในการสกัดกั้น/สกัดกั้น ในกรอบเขตโทษ

UFABETWIN

จากคุณสมบัติข้างต้น เขามักจะดูแย่ ในระบบที่มีแบ็ค 4 แนวรับสูง และมิดฟิลด์มิดฟิลด์น้อย ในขณะที่ลักษณะเดียวกันนี้ทำให้เขา ค่อนข้างเหมาะกับระบบ ที่มีแบ็ค 5 ตัว กองหลังที่ว่องไว ทั้งสองข้าง และมิดฟิลด์ตัวลึก 2 ตัว การที่แมนฯ ยูไนเต็ดเล่น ในระบบเดิมและทีมชาติ อังกฤษอย่างหลัง มันสมเหตุสมผล แล้วที่เขาจะลงเป็นตัวจริง ให้เซาธ์เกต ไม่ใช่สำหรับเท็น ฮาก เขาน่าจะโอเคสำหรับ เชลซีภายใต้ทูเคิ่ล ในฐานะตัวแทน ระยะยาวของซิลวา

ถ้าอังกฤษต้อง การย้ายไปเล่นแบ็ค 4 หรือ แม้แต่ระบบแบ็ค 5 ที่ก้าวหน้ากว่านี้ เขาก็ต้อง รับผิดชอบ แต่เมื่อพิจารณาถึงผลลัพธ์เมื่อลองเล่นใน ฉันไม่คิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ในกรณีนี้เขาเหมาะ กับบทบาทนั้นมากกว่า กองหลังทีมชาติอังกฤษคนอื่น ๆ นี่ไม่ใช่ข้อกล่าวหาที่ดี ในการปกป้อง ภาษาอังกฤษ ฉันเห็นด้วย แต่นั่นคือสิ่ง ที่เราอยู่ในขณะนี้
เดฟ, แมนเชสเตอร์

อังกฤษ 4-3-3? ฉันต้องไม่เห็นด้วย กับสิ่งที่แมทธิว กล่าวในกล่องจดหมาย ตอนเช้าเพราะฉันคิดว่า มันค่อนข้างขัดแย้ง

อย่างแรกเลย ‘สิ่งที่เราหวังไว้’ นั้นค่อนข้าง เกรงใจใช่ไหม? อาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่า ไม่ใช่ทุกคน ที่เห็นด้วย กับบรรทัดนี้ ประการที่สอง ผู้เล่นตัวจริงดูเหมือน 433 อย่างน่าสงสัย สำหรับฉัน

UFABETWIN

ฉันเห็นด้วยกับพิกฟอร์ด และชิลเวลล์ ก็น่าจะยุติธรรม แม้ว่าคนใดคนหนึ่ง หรือชอว์ จะต้องตอกย้ำ จุดยืนสำหรับสโมสรของพวกเขา มิฉะนั้นเราอาจลงเอย ด้วยทริปเปียร์ ซึ่งฉันเห็นด้วย ว่าไม่ใช่รูปลักษณ์ที่ดี ไดเออร์และโทโมริ เหนือแมกไกวร์และสโตนส์? ประพฤติ. ‘ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง’ ของคู่หลังเป็นเหตุว่าทำไมพวกเขาจึงควรเริ่มต้น ! ฉันไม่ได้บอกว่าพวกเขา ไม่มีข้อผิดพลาด แต่พวกเขาเป็น แกนนำของทีมที่ทำผลงาน ได้ดีมากในทัวร์นาเมนต์ ใหญ่สองรายการล่าสุดของเรา วอล์คเกอร์หรือเจมส์ สำหรับ พอใจกับทั้งสองอย่างที่ยอดเยี่ยม และในขณะที่ ก็ยอดเยี่ยม เช่นกัน ดูเหมือนว่าเขา จะมีความยืดหยุ่นทาง แทคติกน้อย กว่าอีกสองคน ดังนั้นหนึ่งในนั้น ควรได้รับการ พยักหน้า

ไรซ์, เบลลิงแฮม และ เมาท์ น่าจะเป็นกองกลางที่ดี ไม่มี การโต้เถียงกันจริง ๆ แม้ว่าคุณจะแนะนำอย่างจริงจัง ว่าเรามีไดเออร์ และโทโมริเป็น เริ่มต้นของเรา ก็จำเป็นต้องมีสองเดือย! สามหน้าของสเตอร์ลิง, เคน และซาก้า ค่อนข้างอร่อย โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าโฟเดนมากกว่าซาก้า แต่เห็นด้วยอย่างยิ่งว่า ซาก้าจะเป็นตัวเลือกที่มีคุณภาพ (จริงๆ แล้วไม่ได้มองในแง่บวกเกินไป สำหรับซานโช กับตัวเลือกอื่น ๆ ทั้งหมดเหล่านี้ ! แม้ว่าแรชฟอร์ด จะเป็นได้ก็ตาม กองหน้าสำรองของ เราถ้าเขา ยังคงเริ่มต้นฤดูกาลได้ดี)

โดยรวมแล้ว ฉันไม่คิดว่า มันง่าย ที่จะพูดว่าทุกคนต้อง การรายชื่อผู้เล่น ตัวจริงของคุณ และฉันจะพูดได้ว่า มีตัวเลือก/คำอธิบายแปลก ๆ มากกว่าสอง สามตัวเลือก! แจ็ค (ฟุตบอลโลก กลางฤดูกาล เป็นเรื่องตลกที่สุด) แมนเชสเตอร์

UFABETWIN

UFABETWIN

UFABETWIN ซน คีซอง : นักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกเกาหลีที่ต้องลงแข่งในนามญี่ปุ่นอย่างขมขื่น

“มันคือความอัปยศอดสูอย่างเหลือทน” ซน คีซอง กล่าว

8 สิงหาคมเมื่อ 86 ปีก่อน ซน คีชอง สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกในการแข่งขันวิ่งมาราธอนให้ญี่ปุ่น ในศึกเบอร์ลิน 1936

มันควรจะเป็นความชื่นมื่นแต่กลับเป็นความขมขื่นสำหรับ ซน เพราะเขาไม่ได้เป็นคนญี่ปุ่นแต่เป็นคนเกาหลี ชาติที่โดนญี่ปุ่นรุกรานและยึดครองในตอนนั้น

นักวิ่งจากอาณานิคม

ซน คีชอง ต้องพบกับชะตากรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มาตั้งแต่เกิด เมื่อตอนที่เขาลืมตาดูโลกในปี 1912 เกาหลีบ้านเกิดของเขา ได้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่เข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลีมาตั้งแต่ปี 1910

ในช่วงเวลานั้น ชาวเกาหลี รวมถึงซนต้องเผชิญกับการกดขี่ รวมถึงความพยายามกลืนชาติจากผู้รุกราน ทั้งการถูกบังคับให้เรียนแต่ภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนไปจนถึงต้องเปลี่ยนมาใช้ชื่อญี่ปุ่น

 

 

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่สามารถหยุดยั้งพรสวรรค์ในการเป็นนักวิ่งในตัวซนได้ หลังจากเขาเริ่มฉายแววมาตั้งแต่สมัยเรียนจากการที่เขามักจะไปท้าวิ่งแข่งกับเพื่อนที่ปั่นจักรยานอยู่เสมอ

จนกระทั่งวันหนึ่งโอกาสของซนก็มาถึง เมื่อการท้าวิ่งกับจักรยานของเขาไปเข้าตาครูของโรงเรียน และครูก็มองว่าหากซนได้รับการฝึกซ้อมอย่างดีเขาน่าจะมีอนาคตไกล จึงได้ตัดสินใจส่งเขาไปเรียนต่อที่โซล

และมันก็ทำให้ซนได้พบกับโค้ช อี ซุนอิล ที่ฝึกฝนเขาอย่างหนัก ด้วยการให้วิ่งไปพร้อมกับก้อนหินที่ผูกไว้ข้างหลัง หรือเอาทรายใส่กระเป๋าทั้งสองข้างที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งและอึดขึ้น

การสอนของโค้ชเป็นไปด้วยดีและทำให้ซนมีฝีเท้าที่พัฒนาขึ้น เขาเริ่มจากการวิ่ง 1,500 เมตรและ 5,000 เมตร ก่อนจะเปลี่ยนมาวิ่งระยะไกล หลังเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งในระยะ 8 ไมล์ในปี 1933

หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นนักวิ่งที่น่าจับตาภายในจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังชนะการแข่งขันมาราธอนถึง 9 ครั้งจาก 12 ครั้ง ในระหว่างปี 1933-1936 รวมถึงโตเกียว มาราธอน ในปี 1935 ที่เขาทำลายสถิติโลกของ ฮวน คาร์ลอส ซาบาลา เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 1932 ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 26 นาที 42 วินาที

 

ในปี 1936 ผลงานของซนก็ยังไม่แผ่ว เขาวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ในรอบคัดเลือกโอลิมปิก 1936 และทำให้เขาได้สิทธิ์ ไปแข่งมาราธอนร่วมกับเพื่อนชาวเกาหลีอย่าง นัม ซุงยอง และ ทามาโอะ ชิวาคุ ที่เบอร์ลิน

มันน่าจะเป็นความตื่นเต้นและความยินดีกับการได้ไปโชว์ฝีเท้าในโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในชีวิตกับการแข่งขันที่ญี่ปุ่นไม่เคยได้เหรียญทองมาก่อน ทว่ามันกลับจบลงด้วยความขมขื่น

ลงแข่งในนามของศัตรู

แม้ว่าจะได้ไปวิ่งมาราธอนในโอลิมปิก แต่ ซน และ นัม ก็ต้องลงแข่งในนามของญี่ปุ่น ชาติที่รุกรานและยึดครองบ้านเกิดของพวกเขา แถมยังต้องเปลี่ยนมาใช้ชื่อญี่ปุ่นในการแข่งขัน โดย ซน ใช้ชื่อว่า คิเตอิ ซน ส่วน นัม คือ โชริว นัน

มันทำให้ซนพยายามประท้วงในสิ่งนี้ตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่เบอร์ลิน เขามักจะบอกว่าเขาไม่ใช่คนญี่ปุ่น รวมถึงเซ็นชื่อตัวเองด้วยอักษรเกาหลี พร้อมวาดภาพคาบสมุทรเกาหลี (บางแหล่งข้อมูลระบุว่าเป็นธงเกาหลี) ไว้ข้างลายเซ็น

 

แต่ซนก็หนีมันไม่พ้น เมื่อสุดท้ายเขาต้องลงแข่งภายใต้ธงอาทิตย์อุทัยของศัตรู ในวันที่ 9 สิงหาคม 1936 ที่เริ่มออกสตาร์ทที่ โอลิมปิก สเตเดียม ในกรุงเบอร์ลิน เวลา 15:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 

ในช่วงแรกทุกคนดูเหมือนจะเก่งกว่าเขา โดยเฉพาะ ซาบาลา แชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีก่อนที่ออกนำซนไปถึง 3 ไมล์ หรือราว 90 วินาที ทำให้นักวิ่งเลือดเกาหลีพยายามไล่ตาม แต่ก็มาถูกเบรกจาก เอร์เนส ฮาร์เปอร์ นักวิ่งชาวอังกฤษ

“ทำใจให้สบาย ปล่อยให้ซาบาลาวิ่งให้เหนื่อย” ฮาร์เปอร์ บอกกับซน

 

UFABETWIN

 

แม้ว่าซนจะพูดอังกฤษไม่ได้แต่เขาก็เข้าใจในสิ่งที่ฮาร์เปอร์สื่อ และทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจวิ่งไปด้วยกัน ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่ฮาร์เปอร์ คาดไว้ เมื่อในไมล์ที่ 19 ซาบาลาเหนื่อยจนโซซัดโซเซและล้มลงจนต้องออกจากการแข่งขัน

 

“ผมมั่นใจว่าผมจะชนะ แต่ตอนที่ออกสตาร์ทผมเห็นนักวิ่งเก่ง ๆ วิ่งผ่านผมไป หลังจากผ่าน 10 กิโลเมตรแรกผมก็เริ่มเห็นพวกเขาออกจากการแข่งขัน ผมเลยคิดว่า ‘บางทีผมอาจจะชนะการแข่งขันครั้งนี้'” ซน เมื่อปี 1988

หลังจากนั้นในช่วง 2 ไมล์สุดท้ายซนก็ขึ้นมาเป็นผู้นำ โดยมีฮาร์เปอร์ตามมาห่าง ๆ ก่อนที่สุดท้ายเขาจะเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 29 นาที 19 วินาที โดยมีฮาร์เปอร์เป็นที่ 2 ตามหลังเขาอยู่ 2 นาที และนัมเพื่อนร่วมชาติของเขาเป็นที่ 3

 

“ตลอด 4 ปีผมฝึกซ้อมมาเพื่อเป้าหมายนั้น ถ้าผมแพ้ 4 ปีที่ผ่านมามันคงสูญเปล่า ความพอใจแบบนั้นเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับคนที่ไม่เคยอยู่ในสถานการณ์นั้นจะเข้าใจ มันคือการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ระดับชาติสำหรับผม และผมก็ชนะ” ซน อธิบายต่อ

การเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ไม่เพียงทำให้ซนคว้าเหรียญทองเท่านั้น แต่มันยังทำให้เขาเป็นนักวิ่งจากญี่ปุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้เหรียญทองมาราธอนในโอลิมปิก

 

อย่างไรก็ดีความรู้สึกอิ่มเอมก็อยู่กับเขาได้ไม่นาน

เหรียญทองที่แสนเศร้า

หลังจากการแข่งขัน ซนก็ได้ขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุดของโพเดียมและได้รับเหรียญทองไปคล้องคอ ทว่าในช่วงของการบรรเลงเพลงชาติซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลาที่ภาคภูมิใจที่สุดของนักกีฬา เขากลับก้มหน้าและมีแววตาที่โศกเศร้า

ซนบอกภายหลังในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองว่ามันคือช่วงเวลาแห่ง “ความอัปยศอดสูอย่างเหลือทน” เพราะเพลงชาติและธงชาติที่ขึ้นอยู่ยอดเสาเป็นของญี่ปุ่น ชาติที่เขาพยายามบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นมาโดยตลอด

“ตอนที่ผมขึ้นไปยืนอยู่บนแท่นและเพลงชาติบรรเลงพร้อมกับเชิญธงขึ้น มันเป็นตอนที่ผมรู้สึกเสียใจกับคนที่ไม่มีประเทศ นั่นคือผม คนเกาหลีที่ชนะการแข่งขันภายใต้ธงชาติและเพลงชาติของญี่ปุ่น” ซน ย้อนความหลัง

 

เขายิ่งปวดใจเมื่อเห็นฮาร์เปอร์ที่ได้เหรียญเงินมองไปที่ธงของสหราชอาณาจักรอย่างภาคภูมิใจ แล้วย้อนกลับมาคิดว่าทำไมบ้านเกิดของเขาอย่างเกาหลีจึงไม่มีโอกาสอย่างนี้บ้าง

“สำหรับตัวผมทั้งที่อันดับ 3 ก็เป็นคนเกาหลีเหมือนกัน แต่พวกเราต่างก้มหัวลง เรากำลังร้องไห้ มันไม่ใช่เพราะชัยชนะแต่เป็นน้ำตาแห่งความโศกเศร้าและความคับข้องใจที่มันไม่ใช่ชัยชนะของเรา” ซน กล่าวต่อ

 

แต่ซนก็ไม่ได้ยอมแพ้ เขาพยายามใช้ความสำเร็จนี้เป็นเครื่องมือในการประท้วงญี่ปุ่น โดยเฉพาะการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ว่า เขาเป็นคนเกาหลีไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น แต่ผู้ดูแลกลับปฏิเสธที่จะแปลในสิ่งที่เขาพูด

“ซนตระหนักดีถึงแนวคิดของการถูกยึดครองจากต่างชาติ และเขาก็พยายามจะพูดเรื่องนี้ในการแถลงข่าว” เดวิด วอลเลชินสกี นักประวัติศาสตร์โอลิมปิก

เขายังพยายามที่จะสื่อว่าการรุกรานของญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรม ตอนที่แถลงข่าวกับสื่อ ด้วยการเน้นคำว่า “ยึดครอง”  ในตอนที่ตอบคำถามถึงเบื้องหลังของความสำเร็จของเหรียญทองประวัติศาสตร์

“ร่างกายของมนุษย์สามารถทำอะไรได้มากทีเดียว จากนั้นหัวใจและจิตวิญญาณจะเข้ามายึดครอง” นี่คือประโยคที่ซนบอกกับสื่อ

 

UFABETWIN

 

อย่างไรก็ดีการคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกของซนก็ได้สร้างความภูมิใจให้แก่ชาวเกาหลี โดยหนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์รายวันของเกาหลีที่ยังตีพิมพ์อยู่ในปัจจุบัน ได้เอารูปของซนขึ้นหน้าหนึ่งแต่ลบธงชาติญี่ปุ่นออก

แม้ว่าการกระทำครั้งนั้นจะทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นลงโทษ ด้วยการปิดหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 9 เดือน พร้อมจับนักข่าวและผู้เกี่ยวข้องกับหนังสือพิมพ์เข้าคุกและนำไปทรมาน แต่มันก็ทำให้ชาวเกาหลีมีความหวังที่จะหลุดพ้นจากการยึดครองของญี่ปุ่น

“มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของคนเกาหลี” มุน ยุนซุค รองประธานบริษัทที่ทำสารคดีให้ SBS

“ซนทำให้เรามีความหวังที่จะเป็นอิสระ และแสดงให้เห็นว่าเราเก่งกว่าชาวญี่ปุ่น”

วีรบุรุษเกาหลี

แม้จะเป็นนักกีฬาประวัติศาสตร์ แต่ชีวิตหลังโอลิมปิกของซนกลับไม่ได้สวยหรู เมื่อเขาถูกห้ามลงแข่งวิ่งอย่างถาวรและถูกจับตามองอย่างเข้มงวด เพราะเกรงว่าจะถูกใช้เป็นเครื่องปลุกระดมชาวเกาหลีในการแยกตัวเป็นอิสระ

นอกจากนี้สถานะของเขายังถูกใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อ ดึงดูดให้เด็กหนุ่มชาวเกาหลีเข้ามาเป็นทหารในกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งซนบอกว่ามันคือ “ความเสียใจที่สุด” ในชีวิตของเขา

อย่างไรก็ดีหลังปี 1945 ซนก็ได้เป็นอิสระ เมื่อญี่ปุ่นกลายเป็นผู้แพ้ในสงครามโลก และทำให้คาบสมุทรเกาหลีได้รับการปลดปล่อย และทำให้ซนได้กลับเข้าสู่วงการวิ่งอีกครั้งในฐานะโค้ชของเกาหลี ชาติบ้านเกิดที่แท้จริงของเขา

ในปี 1950 ซนได้นำลูกศิษย์พร้อมด้วยธงเกาหลี ลงแข่งในบอสตัน มาราธอน ก่อนที่หลังจากนั้นจะเป็นโค้ชให้ทีมชาติเกาหลีใต้อีกถึง 42 ปี

เขายังได้เป็นสักขีพยานในโมเมนต์สำคัญที่ ฮวาง ยองโช นักวิ่งที่เขาปลุกปั้น คว้าเหรียญทองในการแข่งขันมาราธอน ในโอลิมปิก 1992 ที่บาร์เซโลน่า เนื่องจากเป็นการเบียดแย่งมาจาก โคอิจิ โมริชิตะ นักวิ่งชาวญี่ปุ่น ชาติคู่รักคู่แค้นของพวกเขา

หลังการแข่งขันฮวางได้มอบเหรียญทองเหรียญนี้ให้แก่ซนผู้มีพระคุณของเขา จนทำให้ซนถึงขั้นพูดว่า “ตอนนี้ผมสามารถตายได้โดยไม่เสียใจอะไรอีกแล้ว”

ในขณะเดียวกันชื่อของซนยังถูกจารึกไว้ในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์เกาหลี ในฐานะผู้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศ แถมในปี 1986 เขายังได้รับการเปลี่ยนชื่อและสัญชาติให้กลับมาเป็นเกาหลีบนอนุสาวรีย์นักวิ่งมาราธอนที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

แต่ที่พิเศษที่สุดคือในปี 1988 ซนได้รับเกียรติให้เป็นผู้วิ่งคบเพลิงคนสุดท้ายในพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิก 1988 ที่กรุงโซล และนั่นเป็นการแข่งขันที่เป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงจากการปกครองแบบเผด็จการมาเป็นประชาธิปไตยอย่างเป็นทางการ

“เขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง” วาเลชินสกี

“เขาวิ่งผ่านอุโมงค์พร้อมคบเพลิง และทุกคนก็รู้ว่าเขาคือใครโดยไม่ต้องบอก ช่วงเวลาดังกล่าวมีเสียงคำรามจากอัฒจันทร์ที่ดังมาก เขากระโดดขึ้นไปในอากาศ และดูเหมือนทุกคนบนนั้นมีสายสัมพันธ์เชื่อมถึงกัน”

ซน คีชอง เสียชีวิตในปี 2002 ด้วยโรคปอดอักเสบในวัย 90 ปี แต่ชื่อของเขายังคงถูกพูดถึงในฐานะ “ความภาคภูมิใจของชาติ” และได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของคนเกาหลี ซึ่งต่างจากในญี่ปุ่นที่มีเพียงป้ายเล็ก ๆ ระบุว่าเขาคือนักวิ่งมาราธอนเหรียญทองโอลิมปิก และคนวิ่งคบเพลิงของโซล 1988 เท่านั้น

ดังนั้นสำหรับชาวเกาหลี ซน คีชอง คือตัวอย่างของการไม่ยอมจำนน แม้จะถูกกดขี่และต้องลงแข่งในนามของศัตรู แต่มันก็พิสูจน์ให้เห็นว่าตราบใดที่ใจไม่ยอมแพ้ก็ไม่มีสิ่งใดที่สามารถกักขังเขาเอาไว้ได้

“ชาวญี่ปุ่นสามารถห้ามนักดนตรีไม่ให้เล่นเพลงของเรา พวกเขาสามารถห้ามนักร้องของเราไม่ให้ร้องเพลง และทำให้นักพูดของเราเงียบเสียง” ซน กล่าวเอาไว้ไม่นานก่อนเสียชีวิต

“แต่พวกเขาไม่สามารถห้ามผมจากการวิ่งได้”

UFABETWIN