UFABETWINS ตำนานผีลงหลุม ตอน “ชไมเคิลยังช็อค ฮึดหมดก๊อกจนฝันเป็นจริง”

UFABETWINS  อดีตโกลของเราอย่างPeter Schmeichel เล่าเรื่องก่อนย้ายมาแมนยูให้ฟังถึงความช็อคที่ป๋ามาเยี่ยมถึงบ้านเกิดในปี1990 ก่อนที่จะทิ้งให้เขาอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น จนกลายเป็นแรงขับให้เขาย้ายทีมสำเร็จ และสร้างความยิ่งใหญ่ชนิดที่ไม่อาจลืมเลือนตลอดไป

ตำนานเจ้าของหมายเลขหนึ่งชาวเดนมาร์กผู้นี้ ในขณะนั้นเขาลงเล่นให้กับทางBrondbyอยู่ และพลาดโอกาสไปครั้งหนึ่งแล้วในการย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเพราะว่าทั้งสองสโมสรไม่สามารถตกลงเรื่องค่าตัวกันได้

ชไมเคิลนั้นหงุดหงิดมากที่ถูกปฏิเสธโอกาสในการย้ายไปเล่นที่อังกฤษ แต่หลังจากที่เขาพยายามเพิ่มเป็นสองเท่าอยู่ที่เดนมาร์ก เขาได้รางวัลตอบแทนผลของความพยายามด้วยการที่นายใหญ่ของยูไนเต็ดผู้นั้นเดินทางไปเยี่ยมเยียนหาเขาอย่างกะทันหันโดยไม่ทันตั้งตัว

“ตอนนั้นมันเหมือนจะเป็นจุดที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตเลยละมั้ง”

 

“แต่ขณะที่กำลังดาวน์ ผมก็หันหัวกลับจากจุดนั้นทันทีเลยแบบ180องศาแล้วพูดกับตัวเองว่า ผมจะใช้มันเป็นพลังฮึดเพื่อทำให้มันดีขึ้นไปกว่านี้จนกระทั่งผมจะกลายเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ ผมจะต้องเจ๋งกว่านี้ให้ได้ พวกเขา(ยูไนเต็ด)อาจจะได้หันกลับมาทาบทามผมอีกครั้ง”

“ดังนั้นผมจึงมีเวลาสองเดือนที่จะใช้ลูกฮึดนั้นทำงานหนักอย่างถึงที่สุด จนกระทั่งวันนึงเอเย่นของผมบอกให้ผมไปที่นั่น ‘ไปที่บ้านเขาซะ’ เขามีผู้ช่วยอยู่ที่เดนมาร์ก  ผมไปถึงที่บ้านนั้น และอเล็กซ์ เฟอร์กูสันก็อยู่ที่นั่นจริงๆ ผมไม่เคยได้เข้าพบกับเขามาก่อน แต่ผมเคยเห็นเขามาก่อนแล้วเพราะก่อนหน้านี้เราเคยไปพักในโรงแรมเดียวกันประมาณช่วงปีสองปีก่อนหน้านี้ เพราะว่าทางยูไนเต็ดมาฝึกซ้อมเพื่อเตรียมร่างกายในอากาศอบอุ่นช่วงปีซีซั่น  ดังนั้นผมจึงไม่เคยได้พูดคุยกับเขามาก่อน”

การปรากฏตัวของเฟอร์กูสันทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์สองอย่าง อย่างแรกคือการเป็นแรงบันดาลใจให้ชไมเคิลได้โฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่มากขึ้น อย่างที่สองคือเพื่อยืนยันว่าแมนยูอยากจะได้ตัวเขาจริงๆ ถึงแม้ว่ามันอาจจะต้องใช้เวลาหน่อยก็ตาม

“ผมตื่นเต้นกับเขาเพราะเห่อคนดังรึเปล่าเหรอ? คือนึกย้อนกลับไปช่วงนั้นนะ ในสื่อพากันบอกว่าเขาโคตรใกล้จะโดนไล่ออกซะด้วยซ้ำมากกว่าจะได้กลายมาติดยศอัศวินในภายหลัง”

“เขาตีตั๋วเที่ยวเช้าบินมาโคเปนเฮเก้นแล้วก็ไปที่บ้านของเขา จากนั้นเขาก็พูดว่า ‘ผมอยากบอกให้คุณรู้ว่าสิ่งที่ผมได้เห็นจากคุณนั่นน่ะ ผมต้องการนะ แล้วเดี๋ยวผมจะกลับมาซื้อตัวคุณอีกทีช่วงซัมเมอร์ ตอนนี้เดือนกันยายน คุณตั้งใจเล่นให้ดีที่สุดต่อไปเรื่อยๆ รักษาความฟิตเอาไว้ แล้วเดี๋ยวเราเจอกันตอนซัมเมอร์หน้านะ’  ป๋าบอกไว้แบบนี้”

“เขาเขย่ามือเรียกกำลังใจให้ผม แล้วก็เดินทางกลับไปที่สนามบิน ตอนนั้นผมน่าจะอึ้งอ้าปากค้างเหมือนคนเป็นใบ้อยู่แบบนั้น มากกว่าการอึ้งเพราะเจอคนดังซะอีก พอเป็นงั้นแล้วมันทำให้ผมรู้ว่าเขายังคงจับตาดูผมอยู่ตลอด พอมันชัดมากยังงั้นแล้ว ผมจะไม่ทำให้ตัวผมเองและเขาต้องผิดหวัง ดังนั้นก็อีกนั่นแหละ ผมได้แรงฮึดมากมายเลย”

“โดยส่วนตัวผมคิดว่า ปีนั้นผมดีมากๆเลยนะ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะการพัฒนาขึ้นมาของผม ซึ่งให้วัดเป็นตัวเลขคงยากนะว่ามันขึ้นมาเท่าไหร่ แต่น่าจะประมาณ30%เลยในฤดูกาลนั้น ซึ่งคนสำคัญก็คือโค้ชของผมอย่าง Morten Olsen  แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า หลังจากรู้เรื่องนั้นจากปากเฟอร์กูสันแล้ว ผมจึงตั้งหน้าตั้งตาทำงานหนักต่อไป เพื่อที่จะให้ฝันมันเป็นจริงให้ได้”

 

เมื่อชไมเคิลได้บรรลุการย้ายตัวมาแมนยูไนเต็ดในที่สุดช่วงซัมเมอร์ปี1991 ผมถูกเซอไพรส์อีกครั้งเมื่อประธานสโสรอย่าง Martin Edwards พาเขาไปทัวร์ชมสโมสรด้วยตัวเองเป็นการส่วนตัวเพื่อที่จะดูและอธิบายว่าสโมสรเราเป็นอะไรยังไงบ้าง

“ผมมาที่นี่ตอนเดือนพฤษภาคม และก็รู้แค่ว่าผมจะมาเซ็นสัญญาเฉยๆแค่นั้น”

“แต่อยู่ดีๆมันก็กลายเป็นโมเมนต์สำคัญสำหรับผมไปเลย โดยที่แรกสุดก่อนเลยก็คือ พอดีลกันเสร็จเรียบร้อยโดยMartin Edwards กับเอเย่นของผม  ผมมาถึงที่นี่และก็คิดในใจว่า เดี๋ยวเราก็จะต้องนั่งลงนะ แล้วสัญญาก็จะวางอยู่ตรงนั้น จากนั้นผมก็แค่เซ็นลายเซ็นลงไป  แต่Martin Edwardsบอกกับผมว่า ‘มาๆ’ จากนั้นเขาก็พาผมไปชมรอบๆพิพิธภัณฑ์เล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าผมเข้าใจตรงกันใช่หรือไม่ว่า สโมสรนี้ที่คุณย้ายมาร่วมทีมนั้นมีตัวตนยังไงแบบไหน  และผมจะต้องมีความรับผิดชอบในการเป็นนักเตะให้กับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้  ซึ่งเต็มไปด้วยประเพณีและประวัติศาสตร์ที่ผมต้องแบกรับเอาไว้ขณะที่รับใช้ที่นี่”

 

“เขาคอยสังเกตผมตลอดทาง และจะเห็นทันทีว่าผมรับสิ่งเหล่านี้ไหมหรือว่าไม่ได้สนใจ ซึ่งผมมั่นใจว่าถ้าตอนนั้นผมซื่อบื้อไม่สามารถรับรู้เรื่องอะไรได้เลยนั้น เขาอาจจะพูดว่า โอว ไม่นะ..ก็ได้  แต่ความจริงก็คือผมชอบสิ่งเหล่านั้นมากๆ”

“การตรวจสอบวิเคราะห์ตัวผมในเชิงลึกได้ถูกทำแล้วทั้งหมดเรียบร้อยในทุกด้าน”

ชไมเคิลทิ้งท้ายไว้

 

“ผมเพิ่งจะได้รู้ตอนที่เริ่มมาอยู่สโมสรนี้ว่า Alan Hodgkinsonซึ่งเป็นโค้ชโกลของเรานั้นไปดูผมมามากกว่า15ครั้งแม้กระทั่งในปีนั้นที่ย้ายมาด้วย ป๋าเฟอร์กี้พูดว่า เฮ้ ในที่สุดคุณก็มาที่นี่จนได้ เห็นไหมผมกลับมาซื้อคุณจริงๆ”

“เขาเฝ้าจับตามองผมอยู่ ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะตรวจสอบและวิเคราะห์หมดเรียบร้อยแล้ว พวกเขาเข้าใจผมในการเป็นนักเตะอย่างทะลุปรุโปร่ง เขารู้ว่าจะทำอะไรบ้างในภาคการลงเล่นบนสนามจริง ดังนั้นมันจึงไม่มีข้อกังขาอะไรอีกนอกจากที่เหลือก็คือ คอยสังเกตบุคลิกภาพส่วนตัวของนักเตะประกอบอีกอย่างหนึ่งด้วย”

ซึ่งสิ่งที่คนเหล่านั้นพูด มีดังนี้

Alan Hodgkinson:

“แค่สิบนาทีเท่านั้นเองที่ผมไปนั่งดูเกมของBrondby กับ Odense ผมรู้เลยว่าโกลคนนี้โคตรพิเศษ อย่างแรกเลยก็คือผมเห็นว่า ชไมเคิลนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่โกลระดับท็อปคลาสอย่างเดียว แต่เขามีลักษณะทุกอย่างของคนที่อยู่ในขั้นระดับโลก ตอนที่ได้ดูเขาเล่นครั้งแรก ผมว่าผมได้เจอโกลที่อเล็กซ์กำลังตามหาแล้วล่ะ  หลังจากนั้นโดยที่ไม่ต้องรอให้กรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาก่อนเลย ผมรีบตรงไปติดต่อห้องผู้จัดการทีมบรอนด์บี้อย่างไว ก่อนที่จะทราบว่าเราสามารถซื้อตัวชไมเคิลได้ และรู้ราคาขายของเขา เขามีเอเย่นต์เป็นคนนอร์เวย์ที่ชื่อ Rune Hauge ดังนั้นเพื่อที่จะแจ้งความจำนงไปว่าเราสนใจจะซื้อตัว ผมโทรหาอเล็กซ์ก่อนคนแรกเลยแล้วบอกว่า

‘เจอคนที่ใช่แล้ว คนนี้แหละที่จะเอาแชมป์พรีเมียร์ชิพมาให้คุณ’

ผมบอกอเล็กซ์ไปแบบนั้น จากนั้นเขาก็ถามมาว่า ทางนั้นต้องการเท่าไหร่ ผมก็บอกอเล็กซ์ไปว่า 500,000ปอนด์ เชื่อผมเหอะ นักเตะคนนี้จะเป็นการซื้อแห่งศตวรรษเลยนะ”

 

The Independent:

“Peter Schmeichelเหมือนเป็น Gary Bailey เวอร์ชั่นที่ใหญ่มโหฬารกว่า และแข็งแกร่งกว่า ที่จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วนของทีมได้” (Bailey คือโกลตัวหลักของแมนยูช่วงยุค80s 1978-1987)

Alex Ferguson:

“การเซ็นสัญญาที่มันเกิดขึ้นสำเร็จในเดือนสิงหาคมปี 1991นั้น คือดีลในราคาที่ 505,000ปอนด์ ซึ่งกลายเป็นดีลแห่งศตวรรษดีลนึงในโลกฟุตบอลเลย ซึ่งในตอนที่เขาเฝ้าเสาให้เรานั้น มันคือช่วงเวลาที่เรายิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เลยโดยปิดฉากอย่างสมบูรณ์และเพอร์เฟ็คต์ด้วยแชมป์ยุโรปที่บาร์เซโลน่า”

“Peter Schmeichel คือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก”

 

คลิกเลย >>>  https://www.ufabetwins.com/

อ่านเพิ่มเติม >>>  https://www.ilnormanno.net/