UFABETWINS ทำกันมาเป็นร้อยปี : จริงหรือที่การโหม่งบอล ทำลายสุขภาพของนักเตะ ?

UFABETWINS  ลูกโหม่ง หนึ่งในจังหวะคลาสสิกที่อยู่คู่กับการเล่นฟุตบอลมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นจังหวะทำประตูสุดสวยด้วยท่า

 

ทำกันมาเป็นร้อยปี : จริงหรือที่การโหม่งบอล ทำลายสุขภาพของนักเตะ ?

 

“ฟลายอิ้งดัตช์แมน” ของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ หรือช็อตใช้หัวสกัดลูกจากพื้นของ ฟิล โจนส์ จนกลายเป็นมีมที่โด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม เรามักได้ยินข่าวของเหล่าตำนานนักเตะสมัยก่อน ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมเมื่อแก่ตัวลงอยู่บ่อยครั้ง ไล่ตั้งแต่ เดนนิส ลอว์, เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน, และ เทอรี่ แม็คเดอร์ม็อตต์ จนทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันว่า สาเหตุที่แท้จริงของอาการเหล่านี้ มาจากการโหม่งบอลที่มากเกินไปหรือไม่ ?

มาลองไขข้อสงสัยกันว่า การโหม่งบอลส่งผลต่อสุขภาพของนักเตะได้หรือไม่ แล้วมันมีผลร้ายแรงถึงขั้นทำให้เป็นโรคสมองเสื่อมได้เลยหรือ ?

 

เกิดอะไรขึ้นระหว่างโหม่งบอล

ฟุตบอล เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก โดยมีรายงานว่ามันถูกเล่นโดยประชากรมากกว่า 285 ล้านคน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ชายหรือหญิง นักเตะอาชีพหรือผู้เล่นพาร์ตไทม์

พอพูดถึงจังหวะโหม่งลูกบอล แน่นอนว่ามันมีความแตกต่างไปตามระดับของการแข่งขัน ซึ่งในที่นี้ ผู้เขียนได้ยกตัวอย่างกรณีการโหม่งบอลในลีกระดับอาชีพ อย่าง พรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา, บุนเดสลีกา, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, และอื่น ๆ มาเป็นเคสตัวอย่างในการวิเคราะห์กัน

 

เริ่มจากปัจจัยแรกที่ส่งผลต่อการโหม่ง นั่นคือลูกฟุตบอล โดยในกรณีของพรีเมียร์ลีกจะใช้ลูกฟุตบอล Nike Flight ที่นอกจากจะมีการปรับลวดลายของบอลเพื่อช่วยลดแรงต้านอากาศ และทำให้มันเคลื่อนที่ได้เร็วและแม่นยำขึ้นแล้ว ก็ยังมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 70 เซนติเมตร ความดันเมื่อเริ่มการแข่งขันจะต้องอยู่ระหว่าง 0.6-1.1 ATM และมีน้ำหนักอยู่ที่ 450 กรัมด้วยกัน

หากใครที่เคยมีประสบการณ์ได้เล่นลูกฟุตบอลแบบที่ใช้ในลีกสูงสุดกันมาแล้ว ก็คงสัมผัสได้ถึงความหนักของลูก ซึ่งมากกว่าที่เราคาดคิดไว้พอสมควร ทีนี้ลองนึกภาพการโหม่งบอลจากลูกเปิดริมเส้น หรือโหม่งสกัดลูกยิงที่ซัดเข้ามาด้วยความเร็วระหว่าง 15-30 เมตร/วินาทีดู ว่าการโดนมวลหลักครึ่งกิโลกรัมเข้ามาเต็ม ๆ ที่บริเวณหน้าผาก จะเกิดอะไรขึ้นกับสมองของเราได้บ้าง

 

กรณีที่พบบ่อยที่สุด คงไม่พ้นอาการ Concussion หรือเป็นการกระทบกระเทือนกับศีรษะ ที่พบได้มากถึง 22% ของอาการบาดเจ็บระหว่างเกมฟุตบอล ซึ่งเกิดขึ้นได้เมื่อมีการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรง ไม่ว่าระหว่างผู้เล่นกับผู้เล่น หรือขณะที่นักเตะกำลังขึ้นไปโหม่งบอลก็ตาม

ในปัจจุบัน พรีเมียร์ลีกค่อนข้างให้ความสำคัญกับอาการบาดเจ็บรูปแบบดังกล่าว โดยผู้ตัดสินสามารถเป่าหยุดเกมได้ทันทีที่มีผู้เล่นเสี่ยงเป็น Concussion เช่นเดียวกับทีมแพทย์ที่สามารถวิ่งเข้ามาในสนามได้โดยไม่ต้องรอสัญญาณนกหวีด พร้อมกับใช้เวลาประเมินอาการของผู้เล่นได้เต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่านักเตะจะไม่ต้องฝืนเล่นต่อพร้อมกับอาการบาดเจ็บดังกล่าว โดยสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นจากโควตาปกติ 3 คน เพิ่มได้อีก 2 คน ในกรณีที่มีผู้เล่นต้องออกจากสนามเนื่องจากอาการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ

 

หนึ่งในกรณีตัวอย่างของผู้เคยประสบกับอาการ Concussion คือ ลอริส คาริอุส ผู้รักษาประตูของลิเวอร์พูล

 

ที่ถูกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคาดกันว่าการโดนศอกของ เซร์คิโอ รามอส เข้าปะทะในระหว่างนัดชิงชนะเลิศของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 ที่เป็นต้นเหตุทำให้เจ้าตัวเกิดปัญหาในการรับรู้ระยะและทิศทางของลูกบอล จนนำไปสู่ความผิดพลาดง่าย ๆ จนเสียถึง 2 ประตู และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถฟื้นฟูความมั่นใจกลับมาสู่ระดับเดิมได้อีกเลย

 

แน่นอนว่าอาการ Concussion นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่ภัยที่อันตรายยิ่งกว่าคืออาการแบบ Subconcussive injuries ซึ่งผู้เล่นถูกกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะที่ไม่รุนแรงถึงระดับ Concussion แต่ก็จะสะสมไว้จนกลายเป็นอาการแบบโรคเนื้อเยื่อสมองเสื่อมรุนแรงเรื้อรัง หรือ Chronic traumatic encephalopathy (CTE)

อาการของโรคสมองเสื่อม หรือ CTE ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ในปัจจุบัน แต่มักพบมากในบรรดานักกีฬาที่มีการปะทะกัน เช่น มวยปล้ำ ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล รักบี้ และฮอกกี้น้ำแข็ง โดยอาการจะมีความรุนแรงที่ไม่เท่ากัน ไล่ตั้งแต่จัดการสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันไม่ได้ ไปจนถึงสูญเสียความทรงจำ หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

ยิ่งโหม่งยิ่งเจ็บ

งานวิจัยของทีมจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ แห่งสกอตแลนด์ ได้สำรวจข้อมูลของนักฟุตบอลอาชีพในประเทศมากกว่า 8,000 คน ระหว่างปี 1930-1990 พบว่าตำแหน่งการเล่นของนักเตะนั้น มีผลต่อความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อมได้

 

ผู้รักษาประตูนั้น มีความเสี่ยงพอ ๆ กับประชากรทั่วไป ด้านผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางและกองหน้าต่างมีความเสี่ยงพุ่งขึ้นมาถึง 4 เท่า ส่วนโอกาสเป็นสมองเสื่อมของกองหลังมีมากกว่าคนปกติถึง 5 เท่าด้วยกัน

คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล