Giorgio Chiellini เชื่อ Sergio Ramos ที่ต่อสู้กับโมฮาเหม็ดซาลาห์ในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2018 คือการเป็น ‘masterstroke’ โดยยืนยันว่ากัปตันทีมเรอัลมาดริดได้รับบาดเจ็บโดยเจตนาทำให้ลิเวอร์พูล
เป็นมือของเขาในการแข่งขัน Ramos ดึงเอซอียิปต์ลงไปในช่วงแรกของการฉายในเคียฟบังคับให้ Salah ออกไปด้วยอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ซึ่งขัดขวางโอกาสของ Reds ในการเอาชนะคนของ Zinedine Zidane
อย่างรุนแรง ต้องขอบคุณสองข้อผิดพลาดโปรไฟล์สูงจาก Loris Karius และ Gareth Bale wonderstrike, Real ก็ยังคงชนะถ้วยยุโรปด้วยชัยชนะ 3-1 และผู้พิทักษ์ Chiellini ของ Juventus ผู้ซึ่งเชื่อว่า Ramos
เป็นจุดศูนย์กลางที่ดีที่สุดในโลกกล่าวว่าชาวสเปนได้รับบาดเจ็บจากการละหมาด Salah เพื่อให้ฝ่ายเขาได้เปรียบ “ นักวิจารณ์สามารถพูดได้ว่าเขาหุนหันพลันแล่นไม่ใช่ยุทธวิธีเลยและเพราะเขามีเป้าหมายเพิ่มขึ้นแปด
หรือ 10 เป้าหมายต่อฤดูกาล” อิตาลีเอซเขียนในอัตชีวประวัติของเขา“ I Giorgio” ตามที่ AS อ้าง “ ถ้าฉันทำให้เกิดเป้าหมายเพิ่มขึ้นสองหรือสามครั้งฉันจะไม่อยู่อีกต่อไป “ เขาช่างเก่งและเป็นกองหน้าเราเป็นคนตรงกันข้าม
อย่างไรก็ตามเขามีสองลักษณะที่เกือบจะไม่มีใครมี “ คนแรกคือรู้วิธีที่จะตัดสินใจในเกมที่สำคัญ เขาแทรกแซงมากกว่าตรรกะใด ๆ แม้จะมีอาการบาดเจ็บที่เขาทำให้เกิดความฉลาดแกมโกงโหดร้ายเกือบ “ Salah
เป็นโรคลมชัก เขามักจะพูดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเขา แต่เขาก็ตระหนักว่าการทำแบบนั้นและโดยไม่ปล่อยมือเขาเก้าครั้งจาก 10 ครั้งคุณสามารถหักแขนของคู่ต่อสู้ของคุณได้ “ ประการที่สองคือพลัง
ที่เขาถ่ายทอดออกมาเมื่อเขาปรากฏตัว หากไม่มีเขาดาวอย่าง Raphael Varane, Dani Carvajal และ Marcelo ดูเหมือนเด็ก ๆ จากทีม Primavera หากไม่มีเขาแล้วมาดริดก็จะป้องกันตัวเองไม่ได้” Chiellini
ยังเน้นถึงการไม่มีตัวตนของ Ramos จากการพ่ายแพ้ที่น่าพิศวงของเปียนส์ลีกโดยอาแจ็กซ์ในปี 2562 ด้วยเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีความสำคัญต่อลอสบลองโกส “ หลังจากการแข่งขันครั้งแรกพวกเขาให้แบนสองเกม
เพราะเขาซื่อสัตย์: เขาบอกว่าในชีวิตคุณต้องเลือกและมองหาไพ่เพื่อล้างบันทึกของเขาก่อนรอบรองชนะเลิศ” เขากล่าวเสริม “ กับเขาที่เบอร์นาเบวพวกเขาสามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะไม่แพ้ด้วยสามประตู
ฉันเดิมพันทุกอย่างที่คุณต้องการ” อูนิโอน เบอร์ลิน “น้องใหม่” อูนิโอน เบอร์ลิน จะไม่มี อูร์ส ฟิสเชอร์ คุมทีมข้างสนามเพราะเพิ่งกลับมาจากการไปร่วมงานศพพ่อตาที่สวิตเซอร์แลนด์ ต้องกักตัวระยะหนึ่ง
และตรวจร่างกาย ผลงานก่อนช่วงเบรกทำได้ค่อนข้างโอเคโดยเฉพาะในบ้าน 12 นัดที่ชนะได้ถึง 6 นัด ส่วนความพร้อมนัดนี้จะไม่มี มาร์วิน ฟรีดริช กองหลังคนสำคัญที่ติดโทษแบน ขณะที่ อกากี โกเกีย,
มานูเอล ชมีเดบัค และ โยชัว มีส์ มีอาการ บาดเจ็บ ลงเล่นไม่ได้เช่นเดียวกับ ยูนูส มัลลี่ ที่ติดโควิด-19 เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน ที่ยิงไปแล้ว 11 ประตูเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกร่วมกับ มาร์คุส อิงวาร์ทสัน
กับ มาริอุส บึทเลอร์ ส่วนเกมรับนำโดย เนเว่น ซูโบติช กองหลังจอมเก๋า บาเยิร์น มิวนิค “เสือใต้” ของเทรนเนอร์ ฮันซี่ ฟลิค ผลงานดีมากชนะ 10 จาก 11 นัดหลังสุดก่อนหยุดเบรกหนีโควิด-19 ทำให้ ฟลิค
ได้สัญญาคุมทีมยาวจนถึง 2023 ความพร้อมล่าสุดจะได้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กองหน้าตัวเก่งฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกหลังเข้ารับผ่าตัดไปก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับ คิงส์เล่ย์ โกมัน อีกหนึ่งตัวรุกสำคัญ ทว่าจะไม่มี
นิคลาส ซือเล่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ที่บาดเจ็บ “เลวาน” ที่ยิงไปแล้ว 25 ประตูในลีกพร้อมกลับมายึดตัวจริงโดยมี แซร์ช นาบรี้, โธมัส มุลเลอร์ และ คิงส์เล่ย์ โกมัน ทำเกมสนับสนุน 11 ผู้เล่น
ตามคาด อูนิโอน เบอร์ลิน ( 3 – 4 – 3 ) : ราฟาล กีคีวิชซ์ – โฟลเรียน ฮึบเนอร์, เนเว่น ซูโบติช, เควิน ชเลิทเทอร์เบ็ค – คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล, โรเบิร์ต อันดริช, คริสเตียน เกนท์เนอร์, คริสโตเฟอร์ เลนซ์ –
มาร์คุส อิงวาร์ทสัน, เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน, มาริอุส บึทเลอร์ บาเยิร์น มิวนิค ( 4 – 2 – 3 – 1 ) : มานูเอล นอยเออร์ – เบนฌาแม็ง ปาวาร์, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ่ เดวิส -โยชัว คิมมิช,
ติอาโก้ อัลกันตาร่า – แซร์ช นาบรี้, โธมัส มุลเลอร์, คิงส์เล่ย์ โกมัน – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ สนาม : สตาดิโอน อัน เดอร์ อัลเท่น ผู้ตัดสิน : แฟร้งค์ วิลเลนบอร์ก
อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> ข่าวบอล
หน้าแรก >>> https://www.ilnormanno.net/